การวางแผนเกษียณนั้นเป็นเรื่องสำคัญ หากมีการเตรียมตัวและวางแผนไว้ล่วงหน้าก็จะยิ่งดี แต่มนุษย์เงินเดือนนั้นมีรายได้คงที่ และมักจะมีรายจ่ายค่อนข้างสูง เงินออมน้อย เมื่อเวลาผ่านไปหากรายได้เพิ่มก็จะมีการเสียภาษีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นมนุษย์เงินเดือนอาจจะต้องกลับมามองเรื่องสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนเกษียณว่ามีอะไรบ้าง วันนี้ Befin Academy ขอนำเสนอ ตัวช่วยวางแผนเกษียณ “ฉบับมนุษย์เงินเดือน” มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ประกันสังคม : เป็นสิ่งที่คนทำงานจ่ายเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว ซึ่งสิทธิประโยชน์ข้อนี้จะทำให้เรามี “เงินบำนาญคืนหลังเกษียณ” นอกจากนั้นยังมีตัวเลือกอีกอย่างหนึ่งคือ “เงินบำเน็จ” แล้วแต่ว่าจะเลือกสิทธิประโยชน์ในรูปแบบใด
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ : เงินสะสมหรือที่เรียกกันว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ในหลายๆบริษัทจัดตั้งขึ้นเพื่อให้พนักงานได้ใช้เพื่อออมเงินเพื่อการเกษียณ ในส่วนนี้นอกจากพนักงานจะเป็นผู้สะสมแล้ว ทางบริษัทก็ช่วยสมทบเพิ่มด้วยเช่นกัน (บริษัทจะสมทบเท่าใดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนด) อีกทั้งเงินสะสมที่พนักงานเลือกจ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย ข้อสำคัญอีกอย่างที่ต้องรู้คือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพถือเป็นการลงทุนยะระยาว ดังนั้นพนักงานควรให้ความสำคัญกับการจัดพอร์ตการลงทุนให้สัมพันธ์กับระยะเวลาที่เหลือก่อนถึงวันเกษียณพื่อให้เงินเติบโตได้มากที่สุด
ประกันบำนาญ : เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือออมเงินที่สำคัญ พนักงานสามารถออมเงินผ่านเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อสร้างกระแสเงินสดหลังเกษียณ อีกทั้งเบี้ยประกันยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ (ตามเงื่อนไข ที่กรมสรรพากรกำหนด)
ลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี : เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นก็จะต้องมีการเสียภาษีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่เราสามาถเลือกลงทุนเพื่อช่วยในการลดหย่อนภาษีบางอย่างได้ นอกจากจะช่วยลดหย่อนภาษีแล้วยังจะช่วยให้เราเก็บออมเงินในระยะยาวได้ด้วย เช่น การซื้อกองทุนรวม ประเภท SSF และ RMF เป็นต้น
ในการวางแผนหลังเกษียณของมนุษย์เงินเดือนนั้น ควรจะเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวที่มีอยู่ก่อนแล้ว เช่น ประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ใช้เครื่องมือประกันชีวิตเพื่อให้มีกระแสเงินสดหลังเกษียณ (เงินบำนาญ) ใช้เครื่องมือในการลดหย่อนภาษี แต่นอกจากเครื่องมือเหล่านี้แล้วก็ต้องรู้จักการคำนวนค่าใช้จ่าย เริ่มเก็บออม และเริ่มลงทุนให้ไวที่สุด เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณนั้นมีคุณภาพชีวิต